เรามีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง Trust มาหลาย EP แล้ว ครั้งนี้เราจะมาพูดคุยในเรื่องของ Trust เช่นเคยแต่ครั้งนี้จะแตกต่างออกไปเพราะเป็น Trust ในมุมมองของผู้บริหาร ใครที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ควรพลาด เพราะมีแนวคิดดีๆในการสร้าง Trust ให้กับพนักงานในองค์กรได้อย่างไร?
โดยพี่โอ๊ค สุรจิตต์ พิพิธกุล ตำแหน่ง CEO บริษัทแร็กน่าร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
อยู่เส้นทางการบริหารมาทั้งหมดกี่ปี?
พี่โอ๊ค : ประมาณ 15 ปีครับ ปีนี้เป็นปีที่ 15
เทคนิคการสร้าง Trust สำหรับพี่ทำอย่างไร?
พี่โอ๊ค : ถ้าเป็นมุมของ Trust สำหรับผู้บริหาร ผู้บริหารอยู่ในจุดที่สูงที่มีแสงสว่างส่องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่จะทำอะไรก็ตามคือจะเป็นที่จับตามองทุกครั้งที่เราพูด ทุกครั้งที่เราตัดสินใจ ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจมักจะถูกจับตามองและโดยสอบทานดังนั้น การสร้าง Trust ที่ดีที่สุด คือการทำตามที่พูดจริงๆมันง่ายและตรงไปตรงมา มันเริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนตรงไปตรงมาเรื่องงาน คือเราแทนที่เราจะพยายามดอกไม้ไปทุกเรื่อง สำหรับเรื่องงานพี่คิดว่าในเรื่องงานเราสามารถตรงไปตรงมาได้ อันไหนที่ดีเราก็บอกดี อันไหนไม่ดีเราก็บอกไม่ดี อันไหนดีพี่ก็ชม อันไหนไม่ดีก็ติ แต่ติเพื่อก่อนะครับ ติเพื่อก่อคือการให้ Feedback หรือคือการให้ข้อมูลป้อนกลับ negative ที่ดีที่มีคุณภาพ คือการให้ Feedback ลบแต่คนส่วนใหญ่จะกลัวการให้ลบหรือการติ เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีและจะทำให้เราดูไม่ดีด้วย แต่ความเป็นจริงคือจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำงานมาแล้วไม่มี Feedback ที่ไม่ดีเลยเราก็ไม่รู้จะพัฒนาตรงไหนถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นการติเพื่อก่อคือการพูดอย่างจริงใจว่าตรงนี้ยังไม่ได้ตามที่คาดหวังที่เราตั้งเป้าไว้ และทันทีที่เราบอกว่าตรงนี้ยังไม่ได้และคุณภาพยังไม่ดีพอ เราควรที่จะให้ Alternative Solution การคือให้ทางเลือกที่เราเห็นว่ายังไม่ดีเพราะเราคิดว่ามันมีทางเลือกอื่นที่จะทำให้มันดีขึ้น
นี้คือติเพื่อก่อของพี่ครับ
เทคนิคการสร้าง Trust ระหว่างทีมมีเทคนิคอย่างไร?
พี่โอ๊ค : จริงๆแล้ว Trust มันเกิดขึ้นอยู่เสมอแค่เราจะนั่งข้างๆใครสักคน เราก็ต้องมี Trust ให้เขาแล้ว Trust ว่าเรานั่งข้างๆเขาได้เราจะปลอดภัย เขาจะไม่ทำร้ายเรา ขนาดเรายังไม่คุยกันเรายังต้องมี Trust ให้แก่กันละดับหนึ่งนี้คือจุดเริ่มต้น ถ้าถามเรื่องทำอย่างไรให้น้องๆ Trust กันพี่คิดว่ามันเริ่มต้นจากการสื่อสารการสื่อสารที่มีคุณภาพก็จะทำให้น้อง Trust กันอัตโนมัติการสื่อสารที่มีคุณภาพ เหมือนกับการเล่นกีฬาฟุตบอล ถ้าเราไม่กล้าส่งบอลให้เพื่อนเพราะว่าอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อนคนนั้นทำบอลหลุดอยู่เรื่อยๆเวลาเราส่งไปให้ก็ไม่สามารถทำประตูได้ เราเลยรู้สึกว่าเลี้ยงเองดีกว่านั้นก็คือ Trust อย่างหนึ่งเหมือนกันเรา Trust เขาว่าเขาไม่สามารถทำประตู ทำให้เกมส์มันไปต่อไม่ได้ทำให้ทีมแพ้ เรามี Trust ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งดังนั้น ถ้า Trust มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาทั้งเราและผู้อื่นอยู่แล้ว สิ่งที่พี่อยากจะฝากน้องๆไว้คือ ไม่ว่าน้องจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร Trust มันทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการกระทำของเราจะทำให้เกิด Trust ถ้าเราสื่อสารให้น้องเข้าใจแบบนี้ ทุกครั้งที่น้องที่ทำงานด้วยกันทุกคนก็อยากได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น เขาก็จะเริ่มทำสิ่งที่ควรจะทำเวลาที่เพื่อนส่งลูกบอลมา เขาก็พยายามเลี้ยงลูกบอลให้ดีเพื่อให้ทีมชนะจริงๆมันง่ายแค่นี้แหละครับ
โดยพี่โอ๊ค สุรจิตต์ พิพิธกุล ตำแหน่ง CEO บริษัทแร็กน่าร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
อยู่เส้นทางการบริหารมาทั้งหมดกี่ปี?
พี่โอ๊ค : ประมาณ 15 ปีครับ ปีนี้เป็นปีที่ 15
เทคนิคการสร้าง Trust สำหรับพี่ทำอย่างไร?
พี่โอ๊ค : ถ้าเป็นมุมของ Trust สำหรับผู้บริหาร ผู้บริหารอยู่ในจุดที่สูงที่มีแสงสว่างส่องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาที่จะทำอะไรก็ตามคือจะเป็นที่จับตามองทุกครั้งที่เราพูด ทุกครั้งที่เราตัดสินใจ ทุกครั้งที่มีการตัดสินใจมักจะถูกจับตามองและโดยสอบทานดังนั้น การสร้าง Trust ที่ดีที่สุด คือการทำตามที่พูดจริงๆมันง่ายและตรงไปตรงมา มันเริ่มต้นจากการที่เราเป็นคนตรงไปตรงมาเรื่องงาน คือเราแทนที่เราจะพยายามดอกไม้ไปทุกเรื่อง สำหรับเรื่องงานพี่คิดว่าในเรื่องงานเราสามารถตรงไปตรงมาได้ อันไหนที่ดีเราก็บอกดี อันไหนไม่ดีเราก็บอกไม่ดี อันไหนดีพี่ก็ชม อันไหนไม่ดีก็ติ แต่ติเพื่อก่อนะครับ ติเพื่อก่อคือการให้ Feedback หรือคือการให้ข้อมูลป้อนกลับ negative ที่ดีที่มีคุณภาพ คือการให้ Feedback ลบแต่คนส่วนใหญ่จะกลัวการให้ลบหรือการติ เพราะจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดีและจะทำให้เราดูไม่ดีด้วย แต่ความเป็นจริงคือจะเกิดอะไรขึ้นถ้าทำงานมาแล้วไม่มี Feedback ที่ไม่ดีเลยเราก็ไม่รู้จะพัฒนาตรงไหนถูกไหมครับ เพราะฉะนั้นการติเพื่อก่อคือการพูดอย่างจริงใจว่าตรงนี้ยังไม่ได้ตามที่คาดหวังที่เราตั้งเป้าไว้ และทันทีที่เราบอกว่าตรงนี้ยังไม่ได้และคุณภาพยังไม่ดีพอ เราควรที่จะให้ Alternative Solution การคือให้ทางเลือกที่เราเห็นว่ายังไม่ดีเพราะเราคิดว่ามันมีทางเลือกอื่นที่จะทำให้มันดีขึ้น
นี้คือติเพื่อก่อของพี่ครับ
เทคนิคการสร้าง Trust ระหว่างทีมมีเทคนิคอย่างไร?
พี่โอ๊ค : จริงๆแล้ว Trust มันเกิดขึ้นอยู่เสมอแค่เราจะนั่งข้างๆใครสักคน เราก็ต้องมี Trust ให้เขาแล้ว Trust ว่าเรานั่งข้างๆเขาได้เราจะปลอดภัย เขาจะไม่ทำร้ายเรา ขนาดเรายังไม่คุยกันเรายังต้องมี Trust ให้แก่กันละดับหนึ่งนี้คือจุดเริ่มต้น ถ้าถามเรื่องทำอย่างไรให้น้องๆ Trust กันพี่คิดว่ามันเริ่มต้นจากการสื่อสารการสื่อสารที่มีคุณภาพก็จะทำให้น้อง Trust กันอัตโนมัติการสื่อสารที่มีคุณภาพ เหมือนกับการเล่นกีฬาฟุตบอล ถ้าเราไม่กล้าส่งบอลให้เพื่อนเพราะว่าอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อนคนนั้นทำบอลหลุดอยู่เรื่อยๆเวลาเราส่งไปให้ก็ไม่สามารถทำประตูได้ เราเลยรู้สึกว่าเลี้ยงเองดีกว่านั้นก็คือ Trust อย่างหนึ่งเหมือนกันเรา Trust เขาว่าเขาไม่สามารถทำประตู ทำให้เกมส์มันไปต่อไม่ได้ทำให้ทีมแพ้ เรามี Trust ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งดังนั้น ถ้า Trust มันเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาทั้งเราและผู้อื่นอยู่แล้ว สิ่งที่พี่อยากจะฝากน้องๆไว้คือ ไม่ว่าน้องจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร Trust มันทำงานอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการกระทำของเราจะทำให้เกิด Trust ถ้าเราสื่อสารให้น้องเข้าใจแบบนี้ ทุกครั้งที่น้องที่ทำงานด้วยกันทุกคนก็อยากได้รับความไว้วางใจจากผู้อื่น เขาก็จะเริ่มทำสิ่งที่ควรจะทำเวลาที่เพื่อนส่งลูกบอลมา เขาก็พยายามเลี้ยงลูกบอลให้ดีเพื่อให้ทีมชนะจริงๆมันง่ายแค่นี้แหละครับ
การสร้าง Trust ให้กับบุคคลภายนอก เช่น ลูกค้าและคู่ค้า มีเทคนิคการสร้าง Trust อย่างไร?
พี่โอ๊ค : ในหัวข้อนี้พี่มีเรื่องเล่าให้ฟัง ตอนแรกๆที่พี่เริ่มทำบริษัทตอนนั้นเรามีโอกาสดูแลโครงการหนึ่ง ตอนนั้นเรามีกันทั้งหมดแค่ 4 คน มูลค่าโครงการประมาณ 10 ล้าน ตอนนั้นพี่เด็กๆก็ถือว่าเยอะมากๆ ตอนที่ดูแลโครงการมูลค่าขนาดนี้ตอนนั้นจำได้เลยว่า Trust มันสำคัญกับเราขนาดไหน ผู้บริหารและ Supplier ที่คุยด้วยเขาเคยร่วมงานกับพี่มาก่อนและตลอดเวลาที่พี่ร่วมงานกับพวกเขา เขาเชื่อว่าพี่พูดแล้วทำตามนั้น เขาก็ Advance ให้พี่เอาของไปขายให้ลูกค้าก่อนซึ่งมูลค่าเป็น 10 ล้านเลยทั้งๆที่มีแค่ใบ Po ตามปกติไม่มีสัญญาด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น Trust มันทรงพลังมาก ดังนั้น Trust ระหว่างองค์กรมีความซับซ้อนมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างบริษัทอื่นก็จะมองว่า CEO มีความหน้าเชื่อถือขนาดไหน มันก็เหมือนตอนที่สมัยก่อนที่เขาบอกว่าคนแบบนี้ทำธุรกิจด้วยได้และคนแบบนี้ทำธุรกิจด้วยไม่ได้ คนที่เป็นผู้บริหารจะต้องอาศัย lntegrity อย่างมาก เช่น การรักษาคำพูดของตนเองและการรักษาเครดิตสำคัญมากๆ ถ้าในเชิงธุระกิจต้องใช้เวลาหน่อยครับ
พี่เคยบอกว่า Trust คือสิ่งของแลกเปลี่ยนหมายถึงอะไร?
พี่โอ๊ค : พี่คิดว่า Trust เหมือนกับ currency อัตราแลกเปลี่ยน สมมุติว่าเราต้องย้ายไปอยู่ทีมใหม่มีคนใหม่ๆเต็มไปหมด เราจะเริ่มรู้สึกว่าเราจะเริ่มงานกับพวกเขาอย่างไร สิ่งแรกที่ต้องทำพี่คิดว่าเป็นเรื่องของ Trust เราจะเริ่มต้น Trust ใครบางคนจะเริ่มยังไงดีทุกคนอยากให้คนอื่นมาไว้ใจเรา ทุกคนพยายามเรียกร้องขอ Trust แต่หารู้ไม่ว่า Trust มันเป็น Currency มันเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเราต้องให้ก่อน ในมุมมองของพี่ Trust ก็เหมือนกับความรักแหละครับ คือรักจะได้มาต่อเมื่อเราให้ ถ้าเขาให้ความเชื่อมั่นว่า เขาคือทีมของเรา เขาสามารถทำให้ทีมชนะได้ เราอยากจะร่วมงานกับเขานั้นคือจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดเราสามารถสัมผัสมันได้เพราะเราคือผู้ร่วมงานด้วยกัน
" Trust คือสิ่งของแลกเปลี่ยน หากเราไม่ยอมแลกก็ไม่ได้สิ่งนั้นกลับมา" เหมือนกับเวลาเราไปซื้อของถ้าอยากได้ของสิ่งนั้นเราต้องมีสิ่งของแลกเปลี่ยนที่ทำให้อีกฝ่ายพึงพงใจที่จะยอมแลกสิ่งนั้นกลับมานั้นคือ Trust ในมุมมองของพี่
พี่โอ๊ค : ในหัวข้อนี้พี่มีเรื่องเล่าให้ฟัง ตอนแรกๆที่พี่เริ่มทำบริษัทตอนนั้นเรามีโอกาสดูแลโครงการหนึ่ง ตอนนั้นเรามีกันทั้งหมดแค่ 4 คน มูลค่าโครงการประมาณ 10 ล้าน ตอนนั้นพี่เด็กๆก็ถือว่าเยอะมากๆ ตอนที่ดูแลโครงการมูลค่าขนาดนี้ตอนนั้นจำได้เลยว่า Trust มันสำคัญกับเราขนาดไหน ผู้บริหารและ Supplier ที่คุยด้วยเขาเคยร่วมงานกับพี่มาก่อนและตลอดเวลาที่พี่ร่วมงานกับพวกเขา เขาเชื่อว่าพี่พูดแล้วทำตามนั้น เขาก็ Advance ให้พี่เอาของไปขายให้ลูกค้าก่อนซึ่งมูลค่าเป็น 10 ล้านเลยทั้งๆที่มีแค่ใบ Po ตามปกติไม่มีสัญญาด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น Trust มันทรงพลังมาก ดังนั้น Trust ระหว่างองค์กรมีความซับซ้อนมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างบริษัทอื่นก็จะมองว่า CEO มีความหน้าเชื่อถือขนาดไหน มันก็เหมือนตอนที่สมัยก่อนที่เขาบอกว่าคนแบบนี้ทำธุรกิจด้วยได้และคนแบบนี้ทำธุรกิจด้วยไม่ได้ คนที่เป็นผู้บริหารจะต้องอาศัย lntegrity อย่างมาก เช่น การรักษาคำพูดของตนเองและการรักษาเครดิตสำคัญมากๆ ถ้าในเชิงธุระกิจต้องใช้เวลาหน่อยครับ
พี่เคยบอกว่า Trust คือสิ่งของแลกเปลี่ยนหมายถึงอะไร?
พี่โอ๊ค : พี่คิดว่า Trust เหมือนกับ currency อัตราแลกเปลี่ยน สมมุติว่าเราต้องย้ายไปอยู่ทีมใหม่มีคนใหม่ๆเต็มไปหมด เราจะเริ่มรู้สึกว่าเราจะเริ่มงานกับพวกเขาอย่างไร สิ่งแรกที่ต้องทำพี่คิดว่าเป็นเรื่องของ Trust เราจะเริ่มต้น Trust ใครบางคนจะเริ่มยังไงดีทุกคนอยากให้คนอื่นมาไว้ใจเรา ทุกคนพยายามเรียกร้องขอ Trust แต่หารู้ไม่ว่า Trust มันเป็น Currency มันเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเราต้องให้ก่อน ในมุมมองของพี่ Trust ก็เหมือนกับความรักแหละครับ คือรักจะได้มาต่อเมื่อเราให้ ถ้าเขาให้ความเชื่อมั่นว่า เขาคือทีมของเรา เขาสามารถทำให้ทีมชนะได้ เราอยากจะร่วมงานกับเขานั้นคือจุดเริ่มต้น ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดเราสามารถสัมผัสมันได้เพราะเราคือผู้ร่วมงานด้วยกัน
" Trust คือสิ่งของแลกเปลี่ยน หากเราไม่ยอมแลกก็ไม่ได้สิ่งนั้นกลับมา" เหมือนกับเวลาเราไปซื้อของถ้าอยากได้ของสิ่งนั้นเราต้องมีสิ่งของแลกเปลี่ยนที่ทำให้อีกฝ่ายพึงพงใจที่จะยอมแลกสิ่งนั้นกลับมานั้นคือ Trust ในมุมมองของพี่
