Intelligence คืออะไร? ทำไมจึงสำคัญต่อการทำงาน ?
Intelligence คือ “สติปัญญา” ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้วนั่นเอง เราจะขยายคำว่า สติปัญญาให้เข้าใจกันก่อน คำว่า “สติ” นั่น หมายถึง การรับรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก วิเคราะห์ได้ด้วยตัวเองว่า สิ่งใดควรต้องทำหรือไม่ควรทำ อะไรควรทำก่อนและอะไรควรทำหลัง สติ เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของทุกคน หรือแม้แต่การทำงาน ในการทำงานนั้น ถ้าเราสามารถรู้เองได้ คิดเองได้ ทำเองได้ และปฏิบัติงานในทางที่ถูกต้องได้ โดยไม่ต้องให้หัวหน้ามาคอยจับมือทำในทุกเรื่อง นี่คือการใช้สติในการทำงานนั่นเอง ส่วนคำว่า “ปัญญา” มีความหมายมากมายหลายอย่าง เช่น ความรู้ความสามารถ รู้อย่างชัดเจน ความฉลาดตั้งแต่เกิด ความสามารถในการคิดและกระทำโดยใช้ความรู้ ประสบการณ์ ความเข้าใจ และเมื่อเข้าใจทั้ง 2 คำนี้แล้ว จึงนำคำว่า ”สติ” กับ ”ปัญญา” มารวมกันจะได้คำว่า “สติปัญญา” ซึ่งหมายถึง การรู้ตัวและมีความสามารถที่จะทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้ เพราะฉะนั้นถ้ามีสติปัญญาที่ดี ย่อมได้เปรียบในการทำงานหรือในเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย Intelligence จึงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่แก้ไขยาก หรือแก้ไขไม่ได้เลย สำหรับคนที่มี Intelligence ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ก็เปรียบเสมือนมีบุญเก่าติดตัวมา คนเหล่านี้จะมีการพัฒนาได้ค่อนข้างไวกว่าคนที่ขาด Intelligence แต่ก็ใช่ว่าคนที่ขาด Intelligence ติดตัวมาจะไม่สามารถสร้างพัฒนาได้ แต่อาจจะต้องมีความพยายามในการพัฒนามากกว่า และช้ากว่า เนื่องจากจะเป็นคนที่ค่อนข้างเข้าใจอะไรยากนั่นเอง
พนักงานในองค์กรไม่มี Intelligence จะเกิดอะไรขึ้น ?
คนที่ขาด Intelligence ไม่ใช่ว่าเป็นคนไม่เก่ง ไม่ฉลาด คนเหล่านี้ก็ยังคงสามารถทำงานตามหน้าของตนเองได้ปกติ แต่ก็จะเป็นคนประเภท สอนงานแล้วไม่จำ เมื่อสอนเรื่องนี้ไปแล้วเมื่อผ่านไปสักระยะก็จะกลับมาถามเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เมื่อเจอกับงานใหม่ก็จะไม่มีวิธีการเรียนรู้ที่จะหาข้อมูลและจะคอยถามทุกอย่างตั้งแต่เริ่มงานจนจบงาน ทำให้หัวหน้างานจะต้องจับมือทำงานอยู่ตลอดเวลา เช่น เมื่อหัวหน้างานได้ให้งานไป คนเหล่านี้จะรอแต่คำสั่งว่าต้องทำอย่างไร เริ่มตรงไหน เมื่อติดปัญหาจะกลับมาถามตลอดเวลา และเมื่อไปเวลาผ่านไปสักระยะ ก็จะกลับมาถามในเรื่องเดิมปัญหาเดิมๆ จนกว่างานจะเสร็จ และคนเหล่านี้จะไม่อยากเติบโตในสายงาน ทำงานแบบ Routine ไปวันๆ การที่คนเหล่านี้ไม่อยากเติบโต จึงทำให้องค์กรไม่สามารถผลักดันได้อย่างเต็มที่ คนเหล่านี้จะไม่สามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กรได้ และอาจทำให้องค์กรมีการเจริญเติบโตได้ช้า เนื่องจากคนเหล่านี้จะไม่ชอบที่จะต้องทำสิ่งใหม่ เพราะคิดว่าสิ่งใหม่นั่นยาก การพัฒนางานให้ดีขึ้น โดยใช้สติปัญญาจะดึงความสามารถความรู้มาแก้ไขได้ การสร้างสิ่งใหม่ให้งาน จำเป็นอย่างยิ่งต้องใช้สติปัญญาอันชาญฉลาดและในหลายๆเรื่องในงานล้วนจำเป็นต้องใช้ Intelligence
จะทำอย่างไรเพื่อให้องค์กรทราบได้ว่าพนักงานมี Intelligence มากน้อยแค่ไหน เพราะฉะนั้นองค์กรต้องเริ่มสังเกตตั้งแต่ในช่วงที่สรรหาพนักงานเข้ามาทำงานอาจจะต้องมีการ Test IQ ด้วยแบบทดสอบ ก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์เพื่อเข้าทำงาน หรือถ้าเป็นในช่วงทำงาน หัวหน้ามีการสอนงานที่เหมาะสมในขอบเขตของงานนั้น ตัวพนักงานสามารถเข้าใจในงานที่สอน และสามารถปฏิบัติงานได้โดยไม่ต้องถามเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้ง สำหรับวิธีสังเกต คนที่มี Intelligence กับ คนที่ขาด Intelligence จะมีพฤติกรรมดังนี้
พฤติกรรมของคนที่มี Intelligence
- หัวหน้ามีการสอนงานอย่างเหมาะสมแล้วเข้าใจและสามารถทำงานได้โดยไม่ถามเรื่องเดิมซ้ำๆ
- รู้ว่าต้องทำอะไร รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร ( What / Why)
- สามารถจำแนกงานเก่าและงานใหม่ได้
- เรียนรู้ กระบวนการงานเก่าและงานใหม่ได้และพัฒนางานให้ขึ้น
พฤติกรรมของคนที่ขาด Intelligence
- มีการสอนงานอย่างเหมาะสม แต่ยังมีการถามเรื่องที่สอนซ้ำๆ
- ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร ไม่รู้ Input / Output
- ไม่สามารถจำแนกงานเก่าและงานใหม่ได้
- ไม่สามารถเรียนรู้ กระบวนการงาน และไม่สามารถทำตามได้
” ดังนั้น Intelligence จึงสำคัญอย่างมากในการทำงาน ถ้าพนักงานมี Intelligence ในการทำงาน พวกเขาก็จะสามารถเติบโตไปพร้อมกับองค์กรได้ และยังเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาให้องค์กรมีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อีกด้วย แต่สำหรับพนักงานที่ขาด Intelligence ในการทำงาน พวกเขาไม่ใช่คนที่ไม่เก่งเพียงแต่พวกเขาไม่รู้จักวิธีการที่จะพัฒนาตนเอง จะดีแค่ไหนถ้าองค์กรรู้วิธีในการพัฒนา Intelligence ของพนักงานในองค์กร Trust Vision ได้มีการคิดวิธีการพัฒนา Intelligence เพื่อให้ง่ายต่อองค์กรในประเทศไทย ในการที่จะผลักดันพนักงานให้เติบโตไปพร้อมกับองค์กรได้อย่างตรงจุด ”