บทสัมภาษณ์รายการสถานีปรับจูนออนไลน์
พิธีการ : สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับท่านผู้ชมทุกท่านเข้าสู่รายการสถานีปรับจูน
เรากำลังปรับจูนมุมมองใหม่ๆเพื่อค้นหาแนวความคิดและวิธีการทำงานที่เป็นตัวตนที่แท้จริง ผ่านแต่ละบุคคล เพื่อให้การปรับจูนการทำงานนั้นมีความสุขมากยิ่งขึ้นค่ะ
และในวันนี้ก็มาเจอกับน้ำมนเช่นเคยค่ะ วันนี้เรายังอยู่ในหัวข้อเดิมในหัวข้อ Comoetency สำคัญอย่างไรในการพัฒนาบุคลากรในองค์กร?
ในวันนี้ก็เช่นเคยค่ะ มีพี่บอยร่วมพูดคุยวันนี้และสัมภาษณ์ไปด้วยกันค่ะ
และแขกรับเชิญพิเศษที่จะมาร่วมพูดคุยกับเราในข้อหัวนี้ ท่านนั้นก็คือพี่แบงค์นั้นเองค่ะ
สวัสดีค่ะพี่แบงค์ เดี๋ยวให้พี่แบงค์แนะนำตัวนิดหนึ่งค่ะ
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ครับผมชื่อแบงค์ครับ สิริชัย สมบูรณ์ดี เป็นหัวหน้าวิศวกรของขนส่งมวลชนสายหนึ่งในกรุงเทพฯครับผม
พิธีกร : โอเคค่ะ ด้วยงานของเราเป็นระดับ Leader ต้องมีการบุคลากรที่เป็นน้องๆในทีม เคยได้ยินคำว่า Competency บ้างไหมคะ?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ปัจจุบัน Competency เป็นสิ่งที่สำคัญในองค์กร ตอนนี้เราก็พยายามปรับใช้กับองค์กรของเราอยู่เหมือนกันครับ
พิธีกร : มีการปรับใช้ Competency ในด้านไหนบ้าง พอจะช่วยแชร์หน่อยได้ไหมคะ?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ในส่วนที่ผู้ดูแลอยู่ก็จะเป็นน้องๆที่เป็นช่างเทคนิคที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า ซึ่งน้องๆจำเป็นต้องพัฒนาฝีมือตนเอง การที่มี Competency เข้ามาช่วยในการปรับปรุงและพัฒนาพนักงานได้ดีมากครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : คุณแบงค์คิดว่า Competency ช่วยพัฒนาความสามารถของน้องๆในทีมได้อย่างไรครับ ใช้วิธีการไหนในการพัฒนา?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : Competency ของเราจะจัดทำเป็นแบบสอบถามและข้อสอบในการที่จะคัดและประเมินน้องๆ ว่ามีระดับ Competency ของที่เท่าไหร่ หลังจากนั้นเราก็จะเลือกหน่วยของการพัฒนาพวกวิชาต่างๆเข้ามาสอนหรือเทรนนิ่งให้พนักงานในหน่วยต่างๆเช่นบางคนอาจจะขาดเรื่อง การบริหารการจัดการคน เราก็จะมีหลักสูตรภายนอกเข้ามาอบรมให้ บางคนขาดเรื่อง Skill ทักษะการซ่อมบำรุงเราก็จะมีวิชางานซ่อมบำรุงไปเสริมให้กับคนคนนั้นเพื่อให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : หลังจากที่เรา implement น้องไปมีผลตอบรับและประสิทธิภาพยังไงบ้างครับ?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : จริงๆก็น้องๆจะมี Feedback กลับมาทุกครั้งครับ ที่ได้รับการพัฒนาสามารถนำไปปรับปรุงงานของตัวเองได้ สามารถนำทักษะตรงนี้ไปต่อยอดทักษะที่ตัวเองยังขาดอยู่ เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองให้ขึ้นมาเป็น young management รุ่นใหม่ก็ได้ครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : จุดแรกที่ได้รับมอบหมายให้ทำเรื่องนี้เคยมีการใช้ Competency มาก่อนไหมในการพัฒนาบุคลากร?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : เดิมจะไม่เป็นการใช้เรื่องของ Competency เดิมจะเป็นเรื่องของการฝึกอบรมเรื่องของ Skill ล้วนๆและก็จะมีเป็นเรื่องของกฎบริษัท ความปลอดภัยอะไรต่างๆครับ ยังไม่ได้เสริมสร้างเรื่องของ Competency มาก่อนหน้านี้เลย
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : เริ่มจากจุดไหนเป็นจุดแรก ในการเริ่ม implement?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : เราเริ่มจากเรื่องของ Skill ก่อนครับ เพราะงานเราเป็นงานซ่อมบำรุงระบบรถไฟฟ้าการดูเรื่อง skill เรื่องความปลอดภัยเป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นเราจะนำ Skill ขึ้นมาเป็นโครงก่อนครับ ตรวจสอบว่าน้องๆมี Skill อยู่ในระดับไหนส่วนเรื่อง management การจัดการบริหารคนก็จะเป็นเรื่องที่ตามเข้ามา ในส่วนนี้เราก็จะให้ส่วนงานของ HR เข้ามาช่วยเสริมเพราะทาง HR จะชำนาญเรื่องของคนมากกว่าครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : ในมุมมองคิดว่าเรื่อง Skill Knowledge Competency 3 ส่วนนี้ส่วนไหนสำคัญที่สุด?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : จริงๆด้วยสถานการณ์และระยะเวลาของแต่ละองค์กรไม่เท่ากัน บางองค์กรต้อง Skill นำมาก่อนอาจจะต้องสร้าง know how knowledge ก่อนช่วงแรกๆจำเป็นต้องใช้ Skill เหมือนอย่างที่ผมทำอยู่ก็เป็นทีมที่สร้างขึ้นมาใหม่ เป็นแนวธุรกิจใหม่ซึ่งเป็นทางการซ่อมบำรุงที่ยังไม่เคยทำ ดังนั้นมีการทำเรื่อง Knoeledge และมีการทำเรื่อง Know how ขึ้นมาให้แน่เรื่อง Skill ก่อน หลังจากนั้นค่อยไปเรื่อง Competency อื่นๆ ครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : จากที่เมื่อสักครู่พูดถึงเรื่อง Knowledge know how จุดเริ่มต้นในการที่จะสร้าง Knowledge เริ่มค้นหาได้อย่างไรหรือหาข้อมูลจากไหน?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : จริงๆแล้วธุรกิจรถไฟฟ้าเป็นธุรกิจใหม่สำหรับในประเทศเราถึงแม้รถไฟฟ้าจะมีมาเป็น 10 ปีแล้วก็ตาม เดิมเนี่ยเราจัดจ้างผู้รับเหมาภายนอกประเทศให้เข้ามาช่วยซ่อมบำรุงและรักษาทั้งหมด ที่ในประเทศเรามีอยู่จะเรียกว่า technology transfer คือเราจัดจ้างผู้ผลิตเข้ามาสอนและส่งมอบ technology ที่เขาส่งมอบมาให้เราได้ใช้งานกับบุคลากรหรือคนในประเทศ เพื่อเอา technology สานต่อมาเป็น know how สำหรับสอนน้องๆเพื่อให้เกิด Skill และนำให้น้องๆสามารถทำงานซ่อมบำรุงที่เป็น high level เหล่านี้ได้ครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : ส่วนไหนเป็นส่วนที่ยากที่สุดในการเริ่ม implement competency Skill Knowledge ต่างๆ?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : สิ่งที่ยากที่สุดอย่างแรกคือการไม่รู้ซึ่งเทคโนโลยีที่ไม่ได้ถูกพัฒนาจากในประเทศครับ เราต้องอาศัยศึกษาจากต่างประเทศทั้งญี่ปุ่น เยอรมัน ที่เราค่อยศึกษามา หลังจากนั้นเราแปลงเป็น Skill Knowledge ได้แล้วสิ่งที่ยากตามมาคือเรื่องของคน การบริหารจัดการคนเพราะแต่ละคนก็มีอุปนิสัยที่ไม่เหมือนกันทั้งนั้นความขยัน Competency ต่างๆก็จะไม่เท่ากัน ดังนั้นองค์กรจำเป็นอย่างมากเลยที่ต้องสร้างวัฒนธรรมขึ้นมา เพื่อหล่อหลอมให้คนมุ่งไปจุดหมายเดียวกันครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : ถ้าวันหนึ่งมีทีมที่ปรึกษาด้าน Competency ที่จะเข้ามาช่วยในการพัฒนาอยากได้แบบไหน?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ถ้ามีทีม HR หรือ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับ HR ที่เคยเจอมาคือเรามีการช่วยกันในการคัดคนเป็นแต่ละประเภทหรือการทำแบบสอบถาม เพื่อแบ่งประเภทของบุคคลออกมาจะได้มีแนวทางในการพัฒนาพวกเขาได้ถูกต้องครับ ในเบื้องต้นผมเองที่เป็นวิศวกรหรือพี่ๆที่เป็นวิศวกรอาวุโสที่อยู่ในระบบ เราไม่ได้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาอยู่แล้ว เราจะเชี่ยวชาญทางด้าน Skill มากกว่า ดังนั้น HR หรือที่ปรึกษาจะช่วยเรื่องของคนได้ดีที่สุดเลยครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : ในฐานะที่เป็น Leader หรือ Manager สิ่งที่ยากที่สุดในตำแหน่งนี้คืออะไร?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : สิ่งที่ยากที่สุดตอนนี้เลยคือการบริหารความสุขของลูกน้องหรือคนใต้บังคับบัญชาครับและเรื่องของการบริหารความเสี่ยงของผู้บังคับบัญชาของเราเองด้วยทั้ง 2 อย่างต้องไปควบคู่กัน บางครั้งผู้ใต้บังคับบัญชาแฮปปี้แต่ว่าภาคส่วนที่เป็นด้านบริหารอาจจะต้องเสียเงินเยอะขึ้นหรือไม่แฮปปี้มันต้องหาจุดตรงกลาง เพื่อให้ข้างบนแฮปปี้และข้างล่างก็แฮปปี้ด้วย มันจะช่วยให้องค์กรขับเคลื่อนไปได้ครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : เป้าหมายในอนาคตวางไว้ยังไงบ้าง?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : เป้าหมายสูงสุดตอนนี้เลยคือการพัฒนาเด็กๆรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในองค์กรรุ่นเราจะเป็นช่วงเปลี่ยน generation จากรุ่นของเราเป็น gen X gen Y ตอนนี้มีน้องๆ gen Z เขามา ดังนั้นเด็กๆเหล่านี้มีการเรียนรู้เร็วมากแต่สิ่งที่ขาดอยู่คือเรื่องของความอดทน ที่จะไม่ได้มีเหมือนๆรุ่นพวกเรา ดังนั้นเราต้องปลูกฝังเขาและวัดพวกเขาด้วย Competency จะได้พัฒนาพวกเขาได้ตรงจุดที่พวกเขาขาดอยู่ครับ เป้าหมายสูงสุดง่ายเลยครับคือการดันเด็กๆรุ่นใหม่ๆมาทำงานแทนพวกเราครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : ตัวชี้วัดในการวางระบบ Competency น้องๆในทีมเป็นอย่างไร?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : องค์กรของผมเป็นธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟฟ้าดังนั้นเรื่องของความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นตัวชี้วัด KPI แรกเลยที่จะวัดน้องๆคือเรื่องความปลอดภัยครับ ต้องเข้าใจว่าเมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการรถไฟฟ้าต้องมีความปลอดภัยสูงสุด ดังนั้นเรื่องแรกที่จะวัดคือเรื่องความปลอดภัย อันดับต่อไปเป็นเรื่องของเทคนิคหรือว่า Skill ของการซ่อมบำรุงหรือทำงานครับและเรื่องสุดท้ายคือการบริหารจัดการคนในทีมครับ
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : คุณนิยามความสุขของคุณไว้อย่างไร?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ความสุขของผมคือการ Balance เรื่องงานและมีเวลาว่างให้ครอบครัวครับ สำหรับผมคือการที่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเยอะๆครับ นี้คือนิยามความสุขของผมครับ
พิธีกร : นอกจากพัฒนาน้องๆแล้วคุณได้นำ Competency ในการพัฒนาตัวเองบ้างไหม?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ตัวผมเองก็ได้เข้าร่วมทีม young management ของบริษัทเหมือนกันครับ ทั้งการวัด Competency ส่วนตัวและได้รับฟังข้อ Feedback จากทางทีมที่ปรึกษาต่างๆและทีมผู้บริหาร เรายังต้องมีเรื่องปรับปรุงอีกเยอะครับ ทั้งมุมมองที่กว้างขึ้นดึงตัวเองออกมา เพื่อดูภาพกว้างและศึกษาว่าตัวเองเป็นคนประเภทไหนและบุคคลอื่นเป็นประเภทไหน เพื่อทำให้เราจะได้ติดต่อสื่อสารกับเขาได้ง่ายขึ้น อันนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับ young management รุ่นใหม่จะต้องสื่อสารกับคนหลายๆประเภทหลายๆgenครับผม
พิธีกร : สิ่งที่มุ่งเน้นที่จะพัฒนาน้องๆใน gen นี้คือเรื่องอะไร?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ผมคิดว่าต้องปลูกฝังเรื่องกระบวนการครับ เพราะทุกวันนี้ทำอะไรมันเร็วไปทุกอย่างอยากได้ความรู้อะไรก็สามารถเข้าไปดูในอินเทอร์เน็ตได้ ดังนั้นเรื่องของกระบวนการเป็นสิ่งที่สำคัญครับ การคิด วิเคราะห์ จะทำให้เขาไปถึงเป้าหมายหรือสาเหตุรากฐานปัญหาต่างๆได้สำคัญมาก ดังนั้นต้องปลูกฝังเรื่องความคิดให้กับเด็กๆรุ่นใหม่ครับ
พิธีกร : การทำงานกับคนต่าง gen มีความยากในการทำงานหรือไม่?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : มีความยากมากถึงมากที่สุดเลยครับ มันเหมือนจะมีกำแพงระหว่าง gen อยู่การที่เราจะผ่านกำแพงนั้นไปได้เราต้องหาช่อง หาประตู หน้าต่างให้เจอ เพื่อดูว่ามันมีจุดที่ลงตัวกันได้ตรงไหนทั้งพี่ๆ gen B ทั้ง gen X โอเคและ process นั้นก็ต้องเหมาะสมกับน้องๆ gen Z ที่เขามาทำงานร่วมกับเราด้วย
ผู้ร่วมสัมภาษณ์ (พี่บอย) : สรุปท้ายอยากให้ฝากเรื่องการพัฒนาตนเอง พัฒนาทีมด้วย Competency หน่อย?
แขกรับเชิญ (พี่แบงค์) : ผมคิดว่าทุกๆธุระกิจทั้งธุรกิจที่เป็นคมนาคมที่ผมทำอยู่และในส่วนธุรกิจห้างร้านต่างๆการทำ Competency ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะการมีเกณฑ์ความสามารถของแต่ละบุคคลมันจะทำให้แต่ละทีมสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกๆองค์กรมี KPI เป็นของตัวเอง ฉะนั้นการไปถึง KPI ที่ตั้งไว้นั้น Competency เป็นอีกหนึ่งการขับเคลื่อนที่ดีมากๆถ้าเกิดว่าการที่เรามีที่ปรึกษาทางด้าน HR ที่ดีจะทำให้เราไปถึงเป้าหมายนั้นได้รวบเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยครับ
พิธีกร : ช่วงนี้ก็เป็นช่วงสุดท้ายของรายการสถานีปรับจูนแล้วนะคะ ต้องขอขอบคุณพี่แบงค์มากๆค่ะที่สละเวลามาร่วมพูดคุยกับเราในวันนี้และขอขอบคุณพี่บอยด้วยนะคะ สำหรับท่านใดที่ได้ฟังหรือได้ชมคลิปวิดีโอนี้ถ้าสนใจในการนำ Competency ไปใช้พัฒนาบุคลากรหรืออยากทำความรู้จัก Competency ให้มากยิ่งขึ้น สามารถติดตามพวกเราได้ทั้ง 2 ช่องทางไม่ว่าจะเป็นเว็บไซน์ www.Trust-Vision.co หรือ Facebook Trust Vision ด้านในเราจะแชร์ความรู้เกี่ยวกับ Competency ไว้มากมาย เพื่อให้ทุกท่านได้นำไปปรับใช้ในการพัฒนาตนเองและน้องๆในทีมต่อไป สำหรับวันนี้ต้องขอบคุณทุกท่านที่รับชมคลิปวิดีโอนี้มาจนจบ สำหรับวันนี้ขอบคุณและสวัสดีค่ะ