รู้จัก ” Toxic People “

รู้จัก Toxic People

ทุกวันนี้ในการทำงานในองค์กร เรามักจะพบเจอกับคนที่มีอุปนิสัยที่แตกต่างกันไป เพราะแต่ละคนนั้นล้วนมาจากร้อยพ่อพันแม่ มาจากต่างสถานที่กัน จึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะมีความเห็นไม่ตรงกัน และพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป แน่นอนว่าเราอาจจะต้องพบเจอกับคนที่เป็น Toxic People ในองค์กรที่เราทำงานอยู่ก็ได้

Toxic People คือ คนที่มีพฤติกรรมที่เป็นพิษ ไม่น่าอยู่ใกล้ด้วย เพราะจะทำให้เรารู้สึกแย่ และรู้สึกว่าไม่มีความสุข หรือที่เลวร้ายที่สุดก็คืออาจจะส่งผลต่อสุขภาพจิตเราด้วยอย่างมาก อาจจะทำให้เรามองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อยลงเลยก็ได้ เพราะ  Toxic People เป็นกลุ่มคนที่มีพฤติกรรมที่ส่งผลให้คนที่อยู่ใกล้ หรือคนที่ใกล้ชิดมีความรู้สึกที่แย่ ไม่มีความสุขไปด้วย หรือด้อยค่าลงก็ได้ ซึ่งถือได้ว่า Toxic People อาจเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่จะที่ส่งผลต่อสุขภาพจิต

ข้อสังเกตของคนที่มีพฤติกรรม Toxic People

1. อิจฉา

นิสัยของคนที่มีพฤติกรรม Toxic People นั้นจะเป็นคนที่มีนิสัยข้อนี้เกือบทั้งสิ้น บางคนไม่ได้มีความอิจฉาเรื่องจากภายนอกเพียงอย่างเดียว บางคนอิจฉาจนเกินงาม การที่เห็นคนอื่นได้ดีกว่าตนเองไม่ว่าด้วยเรื่องอะไรก็ตาม คนเหล่านี้จะคิดว่าก็ทำได้เท่านี้ละ เราก็ทำได้และทำได้ดีกว่า ชอบที่จะวิจารณ์และแนะนำคนรอบข้าง แน่นอนว่าคำแนะนำนั้นมีประโยชน์ แต่มันก็จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ชอบวิจารณ์ไปซะทุกอย่าง แต่ก็ไม่ช่วยทำอะไรให้ดีขึ้น ซึ่งการวิจารณ์นั้นก็ไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์

2. อารมณ์ร้อน

คนที่อารมณ์ร้อนหงุดหงิดง่ายกับในทุกๆ เรื่องที่เจอ จะเป็นคนที่ไม่ค่อยนึกถึงความรู้สึกของผู้อื่น คนประเภทนี้จะชอบโชว์เหนือในวงสนทนา ถ้าพวกเขาได้เริ่มคุยกับใครแล้ว คนที่ร่วมสนทนาด้วยนั่นจะแทบไม่ได้ยินคำถามที่ขอความคิดเห็นจากคนเหล่านี้เลย ส่วนใหญ่จะกลายเป็นประโยคพูดคุยที่เรียกความสนใจจากคนฟังเสียมากกว่า คนเจ้าอารมณ์จะมองไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเอง เพราะเมื่อไรที่มีการโต้แย้ง คนเหล่านี้จะตั้งต้นด้วยความรู้สึกที่ว่า ความคิดของพวกเขาถูกต้องเสมอ และคนอื่นก็ควรต้องยอมรับในความคิดเห็นของพวกเขา ทุกๆ ครั้งที่คนอื่นพูด คนเจ้าอารมณ์จะฟังเพื่อตอบโต้เท่านั้น ไม่ได้ฟังเพื่อเข้าใจ ซึ่งตลอดระยะเวลาของการสนทนานั้นเราจะไม่ได้อะไร นอกจากความโกรธเกรี้ยวที่ไร้เหตุผล ไม่สามารถเดาอารมณ์ได้ถูก หงุดหงิดใส่ผู้ร่วมสนทนา ใช้อารมณ์ใส่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงกับคนเจ้าอารมณ์ แน่นอนว่าทุกคนมีอารมณ์กันทั้งนั้น แต่คนที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้นั่น ให้เราเริ่มจากคุยกับเขาก่อน รับฟังเขา เพราะเขาอาจจะเจอปัญหาอะไรมาทำให้อารมณ์เสียก็ได้ แต่หากเขาไม่สนใจ ใส่อารมณ์ใส่เราจนไปถึงทำความรุนแรงใส่ก็ควรหลีกเลี่ยง

3.เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง

จะเป็นคนประเภทที่ไม่เห็นใจผู้อื่น ยึดว่าตัวเองถูกต้องเสมอ ชอบที่จะเป็นจุดสนใจในทุกๆ เรื่อง คิดว่าตัวเองมีความสำคัญมากและต้องการเป็นคนที่ถูกยกย่องชมเชยตลอดเวลา หมกมุ่นอยู่กับ อำนาจ ความฉลาด และความสำเร็จในจิตนาการของตนเอง คิดว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นทำทุกอย่างเพื่อตนเอง คิดว่าตนเองจะต้องได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆ มากกว่าคนอื่น ขาดความเห็นอกเห็นใจคนรอบข้าง ไม่สนใจหรือไม่รับรู้ถึงอารมณ์และความต้องการของผู้อื่น      คนเหล่านี้เป็นคนอีกประเภทที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดเลย เพราะคนเหล่านี้มักจะไม่เห็นความสำคัญของผู้อื่นและมักจะชอบจับผิดในความผิดพลาดของผู้อื่นไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม 

4. จอมบงการ

คนเหล่านี้จะเป็นคนที่คอยเจ้ากี้เจ้าการ บงการและชอบควบคุมทุกอย่างให้เป็นดั่งใจที่ตนเองต้องการ ไม่ใช่เพราะหน้าที่หรือสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ แต่เป็นเกือบจะทุกเรื่องในชีวิตของคนที่อยู่รอบตัว หรือจ้ำจี้จ้ำไชกับเรื่องส่วนตัวและชีวิตคนอื่นตลอดเวลา จนบางครั้งเลยขอบเขตและพื้นที่ส่วนตัวของอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว

” ดังนั้นลองสังเกตดูว่ารอบตัวเราในที่ทำงาน เราได้พบเจอคนประเภทนี้บ้างหรือไม่ ถ้ามีให้พยายามหลีกเลี่ยงหรืออยู่ห่าง หรือถ้าเราจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกัน และหากถึงขั้นทะเลาะกันกับคนเป็นพิษเหล่านั้น ก็เป็นการยากที่จะสร้างสมดุลระหว่างความจริงใจและพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมทางอารมณ์เหล่านั้น ให้เรานิ่งเข้าไว้ ไม่สนใจ หรือเฉยไปเลย ปล่อยให้คนเหล่านี้แสดงพฤติกรรมที่เป็นพิษต่อไป สุดท้ายแล้วความเป็นพิษนั้นก็จะอยู่กับตัวของเขาเอง นั่นหมายความว่าคนเหล่านี้จะแพ้ภัยตัวเอง เพราะความเป็นพิษจะอยู่กับเขา และความเครียดก็จะอยู่กับเขาด้วย ซึ่งมันเป็นเรื่องทางจิตวิทยา ต้องรู้เท่าทัน อย่าไปสนใจ “

ทัศนคติของ ” คนสำเร็จ “

          การที่ใครสักคนจะประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในเรื่องใดๆก็ตาม ย่อมจะต้องมีปัจจัยหลายๆอย่างมาเกื้อหนุน และถ้าหากยิ่งเป็นคนที่มีต้นทุนในชีวิตที่สูงกว่าคนอื่นแล้วนั้นยิ่งจะสามารถทำให้ชีวิตดูง่ายดายกว่าคนอื่นๆ แต่สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจนกว่านั้นก็คือ ทัศนคติ เพราะการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล การคิดแบบมีสติ มองเห็นถึงความเป็นจริงมากกว่าความรู้สึกส่วนตัวที่นึกคิดขึ้นมาเอง ถือเป็นคุณสมบัติของบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เพียงแค่เราเริ่มปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด เปิดรับกับอะไรใหม่ๆ สร้างพลังบวกให้กับตัวเองก็จะส่งผลให้เราประสบความสำเร็จได้ไม่ว่าจะลงมือทำเรื่องอะไรก็ตาม และการที่มี ทัศนคติที่ดี ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตของเราเดินทางมุ่งหน้าสู่เป้าหมายตามที่เราคาดหวังไว้ 

        คนที่ประสบความสำเร็จ รักในการเรียนรู้ ชอบในการไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเอง ชอบในการศึกษาค้นคว้าข้อมูลเปิดรับในสิ่งใหม่ๆเพื่อที่จะได้นำมาพัฒนาในงาน เพราะโลกในทุกๆวันนี้เริ่มมีอะไรใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ถ้าเราไม่มีการพัฒนาตัวเองเราอาจจะไม่ทันกับสิ่งใหม่ที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จเร็วขึ้นได้

       คนที่ประสบความสำเร็จ มีเป้าหมายที่ชัดเจน ที่จะทำให้งานนั้นหรือเรื่องนั้นสำเร็จ และเป็นไปได้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่กำลังพบเจอ เพื่อที่จะได้เดินตามแผนที่ตนเองตั้งไว้ จนประสบความสำเร็จ

       คนที่ประสบความสำเร็จ สร้างพลังบวกให้กับตนเอง  เพราะการที่คนเราจะประสบความสำเร็จหรือแม้แต่จะต้องพบกับความล้มเหลว จะขึ้นอยู่กับความคิด เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เรามีความคิด ทัศนคติที่ดีก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนหรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับตนเองได้

       คนที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนที่มีความรับผิดชอบ เห็นคุณค่าในงานที่ทำ และสร้างแรงกระตือรือร้นในงาน รับผิดชอบต่อหน้าที่ต่องานที่ตนเองได้รับมอบหมายเพื่อทำให้ผลงานออกมาดีและนำข้อผิดพลาดในงานมาพัฒนาต่อ

       คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่หยุดนิ่งหรือตีกรอบตนเอง จะมองหาโอกาสใหม่ๆให้กับตนเองเสมอ รู้จักมองโลกให้กว้างมากยิ่งขึ้น ให้ความสำคัญกับโอกาสที่ได้รับมาเสมอ

”  ทั้งหมดนี้คือ ทัศนคติ ของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งไม่ได้ยากจนเกินไปที่เราจะนำมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต หากลองนำมาปรับใช้ในชีวิตก็ไม่ยากจนเกินไปที่จะนำพาให้เรามุ่งไปสู่เป้าหมายตามที่เราตั้งไว้  “